http://www.shop2thai.com/shop/Suzstar

Romantic Erotic Love
 
  ยอดนักอ่าน
 
เปิดเมื่อ   24 พ.ย. 2554
นักอ่าน 6,823
นิยาย 13
หมวดหมู่นิยาย 5
 
 
  หมวดหมู่นิยาย
 
Boy Love (3)
Erotic (2)
Romance (3)
แจกฟรี อ่านฟรี (3)
ดาร์ก สะอื้น (2)
 
 
  เมนูหลัก
 
หน้าแรก
Venus909
คิดถึงก็ทักมา
จากใจ
การชำระเงิน
เว็บบอร์ด
คำถามที่พบ
หมวดหมู่นิยาย
แจ้งการส่งของ
 
 
  สมาชิกเข้าสู่ระบบ
 
ชื่อผู้ใช้
:
รหัสผ่าน
:
 
 
 
  ปฎิทินและเวลา
 
 
 
  แบบสำรวจความเห็น
 
โหวต ปลดล็อคนิยาย ประจำเดือนกันยายน ค่ะ
วาย / เกลียดดีนักจะทำให้รักมากมาย
รักโรมานซ์ / TGA รักละมุน
อิโรติก /อ่อยรัก นายซื่อบื้อ
วาย / Yes or No
โรมานซ์ แซ่บ / ร่าน ราวี
 
 
 
Venus909
 
  ทาสนาง
 


ผู้แต่ง


ติดอกติดใจเชิญฉบับ Ebook ได้ค่ะ


ชื่อผลงาน                               ทาสนาง

จำนวน                                      หน้า

ราคา                                        บาท

ประเภท                                   นิยายรักโรมานซ์

บทประพันธ์                            เพียงเพลิน

ผู้จัดย่อหน้า / พิสูจน์อักษร   เพียงเพลิน

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม   https://www.facebook.com/Venus909_writer

                สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 ผลงานชิ้นนี้เป็นลิขสิทธิ์ส่วนบุคคล ห้ามมีการคัดลอก ทำซ้ำ ลอกเลียนแบบ ดัดแปลงเนื้อหาบางส่วน หรือทั้งหมดไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น โดยไม่ได้รับอนุญาต หากต้องการนำไปใช้เพื่อเป็นประโยชน์แก่สาธารณะกรุณาติดต่อ เพียงเพลิน (063-7979178)

 

 

 

 

ฌอน (Sean)

            ชายหนุ่มวัย 28 ปี เรียบง่าย อัธยาศัยดี จริงใจ อ่อนโยน ชีวิตโดยรวมของผู้ชายคนนี้ มาตรฐานชายไทยในอุดมคติ เสียอย่างเดียว เค้าแอบคิดเล็กคิดน้อยจนน่าหมันไส้

 

 

โรส (Rose)

            หญิงสาววัย 25 ปี โลกส่วนตัวสูง หมกมุ่นกับตัวเอง ไม่มีเจตนาร้ายกับใคร แต่ก็ไม่ซื่อใสเหมือนหน้าตา เธอเกิดมาเพียบพร้อมทุกอย่าง ทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ เสียอย่างเดียว รสนิยมเธอไม่เหมือนใคร ...แล้วจะมีใครรับฉันได้

 

 

 

INTRO

 

10 ปีก่อน

            “ คุณหมออนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วนะคะ”

            “ ขอบคุณครับ”

            ค่ำคืนวันศุกร์ของเหล่าผีเสื้อราตรีทั้งหลาย คงหนีไม่พ้น แสงสี ดนตรี ผู้หญิง ผมก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไป ที่รอคืนแห่งการปลดปล่อย คืนแห่งโลกที่เราจะเป็นผู้ใหญ่

            “ เมามากแล้วมึงงะ พอเหอะ”

            “ ม่ายมาวว... แค่นี้สบายมาก”

            “ สบายห่าอะไร คออ่อนแล้วเสือกแดกหนักอีกนะมึง”

            “ ทำไงได้วะ ก็สาวๆ เค้าขอกูชนตลอดนี่หว่า”

            “ ไป! กลับ! ต้องให้กูไปส่งไหม”

            “ ไม่ต้อง กูกลับเองได้”

            เพื่อนแต่ละคนได้สาวติดมือกลับบ้านกันหมด เหลือผมคนเดียวนี่แหละ ระยะทางจากตรงนี้กลับบ้านก็ไม่ไกลมาก ไม่เห็นมีอะไรน่าเป็นห่วง

            ‘ โครม

          ‘ ว๊าย! ตายไหมน่ะ’

            ‘ เรียกรถพยาบาลที เค้ายังไม่ตาย’

            เสียงหวีดโวยวายรอบตัวผม เร่งให้หัวใจทำงานถี่ แรงดันตีรวนผสานความชาทั่วร่าง ไม่อาจกระดิกตัวหลบหนีได้ รู้เพียงตอนนี้ทุกอย่างอื้ออึงไร้ทิศทางไปหมด

            “ ทำไมแกไม่ตาย”

            “ แกต้องตาย ตายซะ! มาอยู่แทนฉัน”

            เสียงเย็นยะเยือกกระซิบแผ่วใส่หู แม้พยายามปรือตามองแต่ความดำมืดกลับปกคลุมจนไม่อาจมองเห็น น้ำเสียงนิ่งเรียบเย็นชาสลับด้วยกระชากเย้ยไม่พอใจ ผมไม่รู้ว่าเค้าเป็นใคร รู้เพียงคำถามซ้ำๆ

            ...ทำไมผมไม่ตาย

            “ ช่วยด้วย

            ผมร้องขอแทบไม่มีเสียง หวังว่าจะมีใครเข้ามางัดผมออกจากไอ้ซากเหล็กนี่สักที

 

 

 

@ โรงพยาบาล

            “ อาการคนไข้ปกติดีนะครับ เราคงต้องให้เวลาเค้าสักหน่อย”

            “ ปกติแล้วทำไมไม่ฟื้นล่ะค่ะ”

            “ ร่างกายคนไข้อ่อนแอมาก บวกกับฤทธิ์ยาที่หมอให้ด้วย ทำใจให้สบายนะครับ เดี๋ยวเค้าก็ฟื้น”

            ผมได้ยินชัดทุกคำ เพียงแต่มีบางอย่างหนักอึ้งทับร่างผมไว้ ฤทธิ์ยาทำให้ไม่สามารถขยับตัวได้ แต่แรงกดทับทำให้ผมหายใจไม่ออก

            “ เจ้ากับเค้าอยู่คนละภพภูมิกัน ออกไป

            “ ไม่! เค้าต้องเป็นตัว ทนข้า ดวงเค้าถึงฆาตแล้ว”

            “ เจ้าก็เห็นนี่ ว่าเค้ายังมีลมหายใจอยู่”

            “ ข้าก็จะทำให้มันไม่หายใจนี่ไง”

            “ เจ้าทำไม่ได้หรอก พ่อหนุ่มนี่ยังมีเคราะห์กรรมติดค้าง เค้าต้องได้เจอ ได้ช่วย และได้รัก เค้าไม่ใช่ของเจ้า...เค้ามีเจ้าของแล้ว”

            หากผมลืมตาดูได้ อยากเห็นหน้าคนที่คุยกันข้างเตียงมาก ไม่สงสารผมบ้างหรือไง มาเสียงดังรบกวนคนไข้แบบนี้ เอ๊ะ! ว่าแต่เรื่องที่เค้าเถียงกัน มันเรื่องผมนี่หน่า

            “ ลูก ตื่นเถอะ! หลับนานไปแล้วนะ” เสียงแม่ผมนิ

            “ แม่ช่วยผมด้วย! เอาคนพวกนี้ออกไปที” พร่ำคำนี้วนไปวนมา ไม่รู้ว่าแม่จะได้ยินไหม หรือจะมีใครช่วยผมหรือเปล่า พอความคิดทำงาน เสียงเกรี้ยวกราดรอบข้างยิ่งดังแข่ง ราวกับโกรธเกลียดกันเหลือเกิน

            “ ทำไมแกไม่ตาย

            “ แกต้องมาแทนฉัน”

            “ ตายซะซิ! กูบอกให้มึงตาย”

            ‘ เห้อ! เห้อ อาการเหมือนคนจวนเจียนจมน้ำ ลมหายใจแผ่วระทวย ฮึดฮัดสำลัก แรงผลักดันประหลาดเหวี่ยงผมกลับมาพื้นที่ขาวโพลน แสงสว่างจ้าแสบตาจนแทบมองไม่เห็น

           

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1

เขาต้องได้เจอ

Sean’s Part

            “ ตื่น

            “ กูบอกให้ตื่น

            เสียงกรีดร้องโวยวายปลุกผมจากภวังค์   โชคชะตาเล่นตลกตั้งแต่วันนั้น ดวงตาผมมองเห็นภาพต่างออกไป ความสยดสยองที่ไม่คิดว่าจะเจอ ก็กลับได้เจอ

            “ เฮ้ย! เข้ามาได้ไงเนี่ย” ดีดตัวออกจากเตียงแทบไม่ทัน เพราะเสียงกระชากสั่งอยู่ใกล้หู   ย้ำปลุกจนผมสะลืมสะลือตื่น หันมองตามเสียงแล้วจิตตก

            ร่างสูงใหญ่ดำทะมึน มีริ้วแผลถูกฟันหลายแห่ง เลือดเปื้อนเสื้อเกรอะกัง จากสีแดงสดกลายเป็นสีดำ ความสยองอยู่ที่ร่างนี้ไม่มีหัว เหลือเพียงช่วงคอเลือดชุ่ม และที่ช็อคหนักคือเค้าหิ้วหัวว่างไว้ข้างหูผม

            “ ช่วยกู! กูเจ็บ! มึงต้องช่วยกู”

            “ เอาออกไปก่อน ผมกลัว”

            แม้เจอบ่อยแต่ผมก็ไม่ชินสักที สัมภเวสีที่ยังมีห่วงมักมาในสภาพสุดท้ายที่เค้าตาย ซึ่งก็ไม่สวยงามนัก ผมพยายามปลงและคิดว่ามันคืออนิจจัง แต่ความกลัวนี่ซิ! ระยะใกล้ขนาดนี้เป็นใครก็ต้องกลัว  

            “ เอ็งกลัวข้า ทั้งที่เอ็งควรสงสารความทรมานของข้า เอ็งต้องช่วยข้า ข้าไม่อยากทนทุกข์อีกแล้ว”

            ร่างทะมึนเลือดเกรอะดำคล้ำโอดครวญ ร้องขอให้ผมเห็นใจ สภาพร่างถูกฟันหลายแผล เอ่ยคำขอร้องให้ผมช่วย

            “ เจ้าต้องช่วยนายหญิงของข้า ภพนี้ชาตินี้นางตัวคนเดียว ไร้บ่าวไพร่บริวาร หากเจ้าไม่ช่วยข้าคงตายตาไม่หลับ”

            คำพรรณนาขอร้องเต็มไปด้วยความห่วงใย ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่เค้าพูด เพียงแต่คำขอนี้แตกต่างจากทุกครั้ง ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อใครอีกคน

            “ ยังไง อยากให้ผมช่วยใคร”

            “ นายหญิงของข้า นางยอมตายเพื่อบ่าวไพร่อย่างพวกข้า บุญคุณนี้ข้าต้องตอบแทน ไปช่วยนางเถอะ นางกำลังตกทุกข์”

            ‘ เห้อ สรุปแล้วให้ช่วยใคร ยังไงล่ะครับ คำพูดย้อยยุค กับเรื่องราวในอดีตพรั่งพรูออกมามากมาย จากความกลัวในตอนแรก กลายเป็นว่าตอนนี้เหลือเพียงความสงสาร

           

            “ ความเสียสละนั้นช่างน่านับถือนัก ไม่มีสตรีใดกล้าหาญ ยอมเพื่อชาวบ้านมากขนาดนี้ เสียสละเพื่อบ่าวไพร่ได้ทุกอย่างแม้แต่ร่างกาย การยอมเป็นเครื่องบรรณาการปลดเปลื้องอารมณ์โจรชั่ว ก็ไม่ต่างจากตายทั้งเป็น”

            ‘ น่าสงสารจัง’ เสียงหัวใจผมพร่ำคำออกมา ร่างกายผู้หญิงบอบบางเกินกว่าจะทนรับความเลวร้ายนั้นได้

            “ ช่วยข้าเถอะ แล้วข้าจะช่วยเอ็งเช่นกัน”

            “ ก็ได้ แล้วผู้หญิง เออ... นายหญิงคนนั้นอยู่ไหนล่ะ”

            นี่ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ นั่งคุยกับหัวคนช้ำเลือดช้ำหนองบนโต๊ะ แม้ดวงตาปิดสนิท ขยับเพียงปากโต้ตอบ มีส่วนร่างกายกำยำสูงใหญ่นั่งคุกเข้ากับพื้น

            “ ข้าไม่รู้จัก เดี๋ยวข้าจะพาเอ็งไป” พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น แล้วเค้าก็หายไป ทุกครั้งที่มีวิญญาณเข้ามาร้องขอให้ช่วย ในหูผมจะเกิดเสียงหวีดสูงไม่พอใจแทรกเข้ามาตลอด ผมจดจำคำพูดนั้นได้ดี

            ...ทำไมแกไม่ตาย

 

@XXX Club

            “ ที่นี่แน่หรอ” ผมถามย้ำด้วยความข้องใจ

            ภาพนายหญิงผู้เสียสละในจิตนาการผม คือผู้หญิงร่างเล็ก บอบบางสมสวย บุคลิกเรียบร้อย ท่วงท่าสง่างาม ‘ ผ้าง แล้วดูต่อหน้าผมตอนนี้ซิครับ

            ความมืดสลัว ริ้วแสงสีตกกระทบเรือนร่าง เสาโลหะตั้งตระหง่าน พร้อมร่างบางของสาวสวยโยกย้ายเกี่ยวพัน จังหวะเร้าใจทำให้ผมละเมอไปกับภาพชวนวูบไหวตรงหน้า

            “ นั่นไง นายหญิงข้า”

            พยายามกวาดสายตามองหาแม่หญิงในจินตนาการแต่ไม่มีเลย ผมเริ่มลุกลิกไม่อยากคิดเองแล้วจึงกะหันไปถาม

            ‘ เฮ้ย คำตอบของผมหายว๊าบไปยืนอยู่หลังผู้หญิงคนหนึ่ง ถ้าดูจากตำแหน่งเซนเตอร์ที่เธอยืน นั่นมันตัวแม่ชัดๆ

            แล้วคิดดูว่าร่างถมึงทึงยืนเด่นสยองล่อแสงไฟแดงส้มตกกระทบร่าง มีมือหิ้วหัวลอยเด่นทำหน้าพยักพเยิดว่าหมายถึงคนนี้นะ มันน่ากลัวขนาดไหน

            ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เพราะเป้าหมายคือสาวสวย ไซส์เอเชีย ผิวน้ำผึ้งกระทบแสงไฟนวลเนียน ชันตัวขึ้นสูง ใช้เรียวขาเกี่ยวเสาไว้ข้างหนึ่ง หมุนรอบโยกย้ายตามจังหวะ เหวี่ยงตัวสะบัดผมสุดเซ็กซี่

               “ นายหญิงช่างสง่างามไม่เปลี่ยน เอ็งว่าไหม” ร่างสูงใหญ่แว๊บมาหาผมอีกครั้ง ในขณะที่สายตาผมยังจ้องค้างที่ผู้หญิงคนนั้น

            คุ้นเคยเหลือเกิน ความรู้สึกนี้คืออะไรกัน ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนเคยเจอเธอมาก่อน

            “ ต่อไปเป็นงานของเอ็งแล้ว ช่วยนายหญิงให้ได้ ก่อนโชคชะตาจะทำให้ชีวิตนางจบลงแบบเดิม อีกครั้ง”

            “ เดี๋ยว! แล้วให้ช่วยอะไร”

            ผมรีบถาม แต่แทนที่หัวต่องแต่งนั่นจะรีบบอก กลับฉีกยิ้มโชว์ฟันสีหมากแล้วหายไป

            “ อ้าว! จะให้ช่วยอะไรก็ไม่บอก” ผมแทบไม่รู้เรื่องอะไรเลย ยืนเกาหัวแกร๊กๆ ตีหน้างงราวไม่รู้ว่าตัวเองมาที่นี่ทำไม จนกระทั้งบราสีดำสนิทร่วงลงใส่หัว

            “ เชิญผู้โชคดี สำหรับคืนสุดเร้าร้อนกับน้องโรส บนเวทีเลยครับ” เสียงดีเจพูดผ่านไมค์ เรียกผมขึ้นไปรับของรางวัล ซึ่งรางวัลที่ว่านั้นก็คือเจ้าของบราตัวนี้

Rose’s Part

            ค่ำคืนแห่งการปลดปล่อย ฉันเป็นผู้หญิงประเภทที่หนุ่มๆ มองตามจนเหลียวหลัง ไม่รู้ว่าที่หน้ามีคำว่า ‘ ร่านสวาท’ ติดอยู่หรือไง ทำไมถึงใช้สายตาแทะโลมกันขนาดนั้น

            คืนนี้ก็เช่นกัน ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเพลง คำสั่งจากหัวใจบังคับให้ร่างโยกสะบัดอย่างห้ามไม่ได้ จากขาประจำฉันก็ผันตัวเองกลายเป็นตัวท็อปของที่นี่

            ทุกค่ำคืนจบลงที่เตียง ใช่ ! ฉันทำตัวไม่ต่างจากโสเภณี หรือเรียกให้ถูก โสเภณียังดีกว่าฉัน เพราะพวกเธอได้เงิน แต่ฉันได้ฟรี!

            ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะ ไม่ใช่ใครอยากได้ก็ได้ เพราะทุกคนที่นอนกับฉัน ต้องเป็นคนน่าสนใจมากพอที่จะสนุกด้วย

            “ คุณคือผู้โชคดี ได้สุดยอดของรางวัลในค่ำคืนนี้ ก่อนอื่นขอถามก่อนเลยว่า ชื่นชอบอะไรในตัวน้องโรสครับ”

            “ เออ... ไม่ครับ! ผมไม่รู้จักเธอ”

            เสียงชายหนุ่มเจ้าของตัวฉันพูดแบบนั้น รู้สึกหน้าชาสตั๊นร่างไปสามวินาที ก่อนจะเค้นเสียงหัวเราะกลบเกลื่อนทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร

            ‘ ไม่จริง! คนมาเที่ยวที่นี่ทุกคนต้องรู้จักฉัน’ ฝืนยิ้มปลอบใจตัวเองแบบนั้น เพียงหนึ่งนาทีหมอนี่ก็ทำให้ไม่อาจละสายตามองทางอื่น

            ไม่ใช่ว่าชอบนะ หมั่นไส้บวกโมโห บวกเสียหน้าตังหาก

            “ แหม่! อารมณ์ขันนะครับ ที่งี้ทำบอกว่าไม่รู้จัก ใช่ซิ! จะได้ไปต่อกันสองต่อสองแล้วนิ” พี่ดีเจประจำผับยังแซวต่อ พี่เค้าพยายามชวนคุยสร้างสีสันเหมือนสัมภาษณ์ปกติ แต่หมอนี่ไม่รับมุกเลย แถมทำหน้าเหมือนถูกบังคับมา อย่าบอกนะว่าฉันต้องมอบคืนสุดเร้าร้อนให้ผู้ชายเฉยชาคนนี้

            ถ้าต้องทำแบบนั้น ฉันยอมจ่ายเป็นเงินค่าเสียเวลาดีกว่า ใช่ว่าที่ฉันยอมทำงานแบบนี้ เพราะยากไร้ไม่มีทางไป ทุกอย่างเป็นเรื่องของรสนิยม และความพอใจล้วนๆ

            “ ไม่รู้จักก็ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวคืนนี้เราได้ทำ...ความรู้จักกันทั้งคืนแน่” ฉันแสร้งเสียงหวาน ส่งสายตายั่วยวนให้อีกฝ่าย เจตนาหยอกเย้าให้เค้าตื่นตัว ผู้ชายร้อยทั้งร้อยหากถูกจู่โจมจุดอ่อน รู้จักหรือไม่รู้จักก็ไม่ต่างกันหรอก

            “ ไปกันดีกว่า ฉันอยากอยู่กับคุณ จะแย่อยู่แล้ว”

            กระซิบเสียงหวาน ลากผู้ชายคนนั้นออกจากผับทันที เบียดร่างเข้าคลอเคลีย เกาะแขนกอดเอวตลอดทางจนถึงที่จอดรถ เค้ามีท่าทีอึกอักปฏิเสธ ทำเหมือนไม่ได้คิดเรื่องอย่างว่ากับฉันเลย

            ‘ ผู้ชายอะไร ฟอร์มจัดชะมัด’ ข้อความในใจที่ฉันคิด ปากยังคลี่ยิ้มยั่ว หวังให้เค้าหลงหลุดฟอร์มแสดงธาตุแท้ออกมา

            “ คุณ เออ...”

            “ โรสค่ะ”

            “ คุณโรส คุณมีเรื่องอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า”

            เสียงสุภาพเอ่ยถาม เค้าทำให้ฉันงงสับสนเดาทางไม่ออก เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ที่เข้ามาก็หวังแค่ตัว ความสนุกชั่วครั้งชั่วคราว หรือไม่ก็เงิน ไม่เคยมีใครถามฉันแบบนี้

            “ ทำไมคะ ทำไมถึงคิดว่าโรสมีอะไรอยากให้คุณช่วย”

            “ คือผม..”

            คำพูดอึกอักเหมือนกำลังคิดหาคำโกหกสวยหรู สีหน้าเค้าดูปกติดีไม่มีสายตาแพรวพราวเหมือนคนอื่นที่เคยเจอ

            “ ก็คนมาเที่ยวส่วนใหญ่จะมีเรื่องเครียดไง ผมก็คิดว่าคุณเป็นแบบนั้น” คำตอบโคตรจะไม่ธรรมชาติ บ่งบอกชัดเจนว่านี่คือคำโกหก

            “ ไม่หรอกค่ะ ทำตัวเป็นเสี่ยพร้อมเปย์ให้โรสแบบเนี่ย เดี๋ยวโรสก็หลงคุณแย่” ฉันแกล้งเย้า พยายามลอบมองอาการว่าเค้าคิดจะทำอะไรต่อ

            เค้าเลือกเดินมาส่งฉันที่รถ ไม่ได้พูดหยอดเหมือนผู้ชายคนอื่น อารมณ์ตอนนี้กลายเป็นฉันเองที่สนใจในตัวเค้า คนเดาอารมณ์ยากแบบนี้แหละที่ฉันต้องการ

            “ ขึ้นมาก่อนซิค่ะ โรสยังอยากคุยกับคุณ... ชื่ออะไรนะคะ”

            “ ฌอนครับ”

            ผู้ชายที่ชื่อฌอนมองซ้ายมองขวาเหมือนหาอะไรสักอย่าง ยืนนิ่งคิดอยู่นานก่อนยอมขึ้นมาบนรถหรู

            “ รถคุณสวยดีนะ”

            “ หึ

            เผลอปล่อยเสียงสงสัยออกไป เพราะนี่ไม่น่าใช่เวลามาชมรถสวยแน่ๆ หรือผู้ชายคนนี้จะไม่รู้จักฉันจริงๆ เพราะถ้าทุกอย่างคือการแสดง เค้าทำมันได้ดีมาก เค้าดูไม่สนใจฉันเลย

            “ อยากอื่นของโรส สวยกว่านี้อีกนะคะ” เอ่ยตอบเสียงหวาน อ้อยอิ่งสายตาจงใจเชื้อเชิญอีกฝ่าย ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยกรอบหน้าหล่อเหลา หวังสื่อให้เค้าทำตามที่ใจคิด

            “ คือ... ผม” นั่นไง! เจอมารยาหญิงลูบคลำเข้าหน่อย ความอักอึกไม่มั่นใจเริ่มปรากฏ

            กระเดือกเคลื่อนไหวตามการกลืนน้ำลาย ช้อนสายตาหลบเลี่ยงไม่กล้าสู้หน้า เค้ากำลังเผยสัญชาตญาณชายหนุ่มออกมา

            ฝ่ามือฉันเริ่มลูบลงต่ำถึงต้นขา ปะป่ายเฉียดไปมาแถวเนื้อขาอ่อนด้านใน ลากลูบแผ่วเบารอเวลาให้เอ็นกลางตัวลุกชัน

            “ คุณทำให้โรสคลั่ง รู้ตัวหรือเปล่า”

            “ คือผมรับปากแล้วว่าจะช่วยคุณ ช่วงนี้คุณมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”

            หนุ่มหน้าเครียดยังยืนยันคำเดิม เค้าเกร็งสั่นไม่ต่างจากลูกแมวตัวน้อย ร่างกายวูบวาบตามฝ่ามือฉันลูบไล้ ยิ่งตอนลากผ่านจุดเสียวแถวแผ่นหลัง เค้ายิ่งเผลอปล่อยคราง

            “ เสียวหรอค่ะ ถ้าอยากช่วยจริงๆ ช่วยกันเสียวดีกว่า อย่าเอาเปรียบโรสซิค่ะ คุณเองก็ต้องช่วยโรสด้วย”

            เอาล่ะดูซิ! ที่นี้จะยังเล่นตัวอีกไหม

            “ คือผมไม่ได้จะ...” ขยับตัวเข้าสวมกอด จงใจยื่นริมฝีปากเข้าใกล้ ประทับตรึงสองกลีบแนบชิด ขบเม้มแผ่วเบาทักทาย

            สายตาเราสองจ้องกันไปมา ตามจังหวะกลีบปากเคลื่อนตัว ดันส่งความรู้สึกวาบหวาม ฝ่ามือเข้าประครองกอดกันและกัน มองเห็นภาพตัวเองฉายชัดอยู่ในดวงตาของอีกฝ่าย

            ...คุ้นเหลือเกิน

            ฉันไม่อาจห้ามความรู้สึกนี่ได้ ทุกจังหวะที่เราถ่ายทอดให้กัน ไม่ใช่ความใคร่แต่เป็นความรู้สึกแปลกประหลาด ยิ่งขยับเม้มเท่าไรยิ่งไม่พอ ยิ่งลูบไล้เท่าไรยิ่งต้องการ ความรู้สึกนี้มัน

            ...โหยหา

            ฉันหยุดหาคำตอบสำหรับทุกอย่าง ปล่อยร่างกายตามสัญชาตญาณ สัมผัสอุ่นร้อนผสมไอแอลกอฮอร์ตีวูบวาบทั่วร่าง ผลักดันให้เร่งถอดเสื้อผ้ากันและกัน

            “ โรส”

            “ นะคะ อยากช่วยโรสไม่ใช่หรอ”

            เมื่อร่างเปล่าเปลือยไร้อาภรณ์ใดปกคลุม สัมผัสเสียดสีเตรียมพร้อมได้ที่ แม้ตอนนี้เค้าอยากเอ่ยคำค้าน ฉันก็ไม่อาจรับฟัง ฉันไม่สามารถปฏิเสธมันได้ เหมือนร่างกายกระหายใคร่อยากอยู่ตลอดเวลา

            เอ่ยปากขอตรงๆ ดันร่างเค้านอนนิ่งอยู่ด้านล่าง ชันตัวขึ้นคร่อมเร่งเสียดสีส่วนเกี่ยวพันสองเราให้พร้อมใช้

            “ เป็นของโรสนะคะ” กระเส่าเสียงหวานร้องขอ ก้มลงบดจูบกลืนกินริมฝีปากของอีกฝ่าย ฉันไม่อยากรู้ว่าเค้าจะพูดยังไงต่อ รู้เพียงตอนนี้อารมณ์ดิบหื่นเริ่มก่อตัวทีละน้อย

            กรงเล็บคมยาวฉาบสีดำสนิท จิกลงคอล่ำสันของชายหนุ่ม แววตาตื่นตระหนกยิ่งกระตุ้นให้ฉันลงแรงกดย้ำ เค้าอึกอักคล้ายไม่กล้าปฏิเสธ สีหน้าสับสนหวาดกลัวคล้ายลูกแมวที่ถูกตอนให้จนมุม

            ‘ อึก! อือ..’ หน้าเหยเกทวีความเจ็บปวด

            เสียงครางอื้อผ่อนลมหายใจยากลำบาก ใบหน้าหล่อส่ายซ้ายทีขวาทีดีดดิ้น เค้าไม่กล้าออกแรงผลักฉันเหมือนผู้ชายคนอื่น หรือว่าเค้าจะชอบแบบนี้เหมือนกัน

            เพ็งมองเงาตัวเองสะท้อนนัยน์ตาคนใต้ร่าง รอยยิ้มเหยียดสะใจ ผสมกับท่าทางพร้อมปรนเปรอความเสียวซ่าน ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ฉันได้ดี

            “ ผมเจ็บ ปล่อยก่อน” เสียงแผ่วบอกฉันแบบนั้น

            “ ปล่อยก็ได้ ถ้ามึงครางได้ถูกใจกู”

            สัญชาตญาณดิบที่ไม่เคยห้ามได้ เริ่มทำงานอีกแล้ว ทุกครั้งที่มีอารมณ์คำพูดหวานหูจะกลายเป็นคำด่าท้อหยาบคาย ฉันไม่รู้เลยว่าด้านมืดของตัวเองน่ากลัวแค่ไหน เพราะยังไม่เคยมีใครสนองอารมณ์ได้ถึงขีดสุดสักที

            “ ใจเย็นซิคุณ ผมเป็นผู้ชายนะ” เสียงกระท่อนกระแทนห้ามปราบฉัน

            เร่งโยกตัวเสียดสีเนินสาวกับอาวุธท่อนแกร่งจนทั้งสองร้อนระอุ แพนตี้หรูยังกั้นกลางไม่ให้ทั้งสองสอดใส่กัน มีเพียงความสากจากผ้าลูกไม้คอยถูไถส่งอารมณ์

            “ ผู้ชายแล้วไง สันดานผู้ชายน่าจะชอบแบบนี้ไม่ใช่หรอ” เย้ยเสียงตอบกลับ จัดแจงเบี่ยงจีสติสเกะกะปากทางออก ละเลงน้ำชุ่มเยิ้มจนทั่วความยาวแท่ง ก่อนกดเอ็นอุ่นเข้าโพรงพังผืด

          ‘ อืมม...’

            “ ชอบใช่ไหม ในตัวกูอุ่นร้อนดีหรือเปล่า”

            เสียงครางสุขสม ปล่อยตามแรงกระแทกขึ้นลง ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าพร่ำพูดอะไรออกไปบ้าง รู้เพียงโหมแรงขย่มขึ้นทีลงที บังคับทิศทางตามที่ใจปรารถนา เสียงครางแหบต่ำที่ฉันเคยขอก็ปล่อยประสานคลอเสียงก้อนเนื้อกระทบ

            “ ครางดังกว่านี้อีก! แสดงความป่าเถื่อนของมึงออกมา”

            จิตใต้สำนึกสั่งให้หยาบกระด้าง เพราะคู่ขาพวกนี้ล้วนแล้วแต่ต้องการเพียงร่างกาย พวกมันไม่เคยสนว่าร่างกายฉันจะบอบช้ำแค่ไหน ขอแค่สนองอารมณ์ได้ก็พอ ซึ่งฉันเองก็เสพติดความหยาบนั้นแล้ว

          ‘ เฮ้อ! เฮ้อ ชายหนุ่มเด้งตัวสวน เติมเต็มเกมส์รักให้เร่งเร้า เราสองขยับโยกไม่นาน เสียงหอบหายใจอ่อนระทวยก็ค่อยๆ ปลดปล่อยออกมา

            ร่างกำยำสั่นระริก แผงอกแกร่งวูบไหวขึ้นลงตามการหายใจ สองแขนแกร่งกอดฉันไว้แน่น หลับตาพิงเบาะเหมือนคนหมดแรง

            “ หายบ้าหรือยัง” เค้าเอ่ยปากถาม ทั้งที่ฝ่ามือหนายังลูบหลังปลอบประโลมให้อารมณ์ฉันเย็นลง

            “ นายแหละ ผู้ชายหรือเปล่าทำไมไม่ทำเอง”

            “ ผมไม่ได้มาเพื่อช่วยคุณเรื่องนี้ ผมมาช่วยเรื่อง…”

             ทั้งที่ท่อนแข็งยังเสียบคาอยู่ในตัวฉัน มีหน้ามาพูดอีกว่าไม่ได้ต้องการแบบนี้   ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ไอ้คำว่าช่วยที่เค้าพร่ำบอกเนี่ย คือช่วยเรื่องอะไร

            “ เงียบทำไมล่ะ พูดต่อซิ! จะช่วยเรื่องอะไร”

            “ แล้วคุณมีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าล่ะ”

            นั่นไง! เค้าเฉไฉไม่ตอบอีกแล้ว เป็นวิธีตีสนิทแบบใหม่หรือไง มันก็ได้ผลนะ เพราะเค้าทำให้ฉันรู้สึกสนใจ และอยากสะใจแบบเมื่อกี้ต่อ

            “ ก็มีนะ ช่วยแบบที่มึงทำเมื่อกี้ไง”

            “ โถ่คุณ! ผมเป็นผู้ชายนะ”

 




ติดอกติดใจ สั่งซื้อเล่มกระดาษได้ค่ะ







ราคา : 149.00
ราคา : 100.00
 
 
  นิยายลดราคา
 
รหัสสินค้า : E002
ชื่อสินค้า : ซีรี่ย์ อ่อยรัก
ราคา : 299.00
ราคา : 200.00
 
รหัสสินค้า : RM002
ชื่อสินค้า : ซีรี่ย์ เผลอ
ราคา : 189.00
ราคา : 79.00
 
 
 
  นิยายพร้อมส่ง
 
รหัสสินค้า : BL001
ชื่อสินค้า : เกลียดดีนัก...จะทำให้รักมากมาย
ราคา : 220.00
ราคา : 180.00
 
รหัสสินค้า : BL002
ชื่อสินค้า : Yes or No
ราคา : 220.00
ราคา : 150.00
 
 
 

Copyright @ 2007-2014 by http://www.shop2thai.com 12677